แนวข้อสอบ เอกโลจิสติกส์

ถาม – ตอบ ความรู้เกี่ยวกับโลจิสติกส์

*******************

 

1. คำว่า โลจิสติกส์ (logistics) มาจากภาษาใด

ตอบ  มาจากภาษาฝรั่งเศสคำว่า logistique ที่มีรากศัพท์คำว่า โลเชร์ (loger) ที่หมายถึงการเก็บ โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากการขนส่งสินค้าทางการทหาร ในการส่งกำลังบำรุง ทั้งเสบียง อาวุธ กำลังพล เพื่อสนับสนุนการรบ หรือ กิจกรรมที่มีการเคลื่อนย้าย จัดเก็บ จากอีกที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง

2. ปัจจุบัน โลจิสติกส์ หมายถึง

ตอบ  ต้นทุนด้านการขนส่งของประเทศ

3. การจัดการโลจิสติกส์ หมายถึง

ตอบ กระบวนการจัดการ การเคลื่อนย้าย และจัดเก็บวัตถุดิบ และสินค้าจากผู้ขายวัตถุดิบ ไปยังผู้บริโภครายสุดท้าย

4. ปัจจุบันมีการแบ่งขอบเขตของโลจิสติกส์ เป็นกี่กลุ่ม  อะไรบ้าง

ตอบ  2 กลุ่มกิจกรรมหลัก   คือ

1. โลจิสติกส์ขาเข้า (Inbound Logistics) หรือ การจัดการวัสดุ (Material Management) จะสนับสนุนในการผลิตเป็นหลัก มีงานที่เกี่ยวข้องคือ การศึกษาความต้องการพื้นที่จัดเก็บและการเคลื่อนย้ายของวัตถุ ดิบ/สินค้า/ชิ้นส่วน บรรจุภัณฑ์ การจัดซื้อและจัดหา การผลิต รวมถึงต้นทุนและบริการ เพื่อให้มีมูลค่าเพิ่มในกิจกรรทางเลือกที่ดีที่สุด

2. โลจิสติกส์ขาออก (Outbound Logistics) หรือ การจัดการการกระจายสินค้า (Physical Distribution Management) จะสนองความต้องการในการขาย และการตลาดเป็นหลัก มีหน้าที่หลักคือ การจัดการคลังสินค้า และการขนส่ง โดยคลังสินค้าจะต้องมีโครงสร้างพื้นฐาน ระบบอำนวยความสะดวก อุปกรณ์ต่างๆ ระบบจัดการคลังสินค้า และโครงสร้างการบริหารจัดการ ส่วนงานขนส่งจะเกี่ยวข้องกับการเลือกพนักงาน ที่มีทักษะ รูปแบบการขนส่ง วิธีการขนส่ง และมูลค่าจากการทำงาน

5. ลักษณะของ Logistics  มีกี่แบบ  อะไรบ้าง

ตอบ  2 แบบ  คือ

1. ลักษณะกิจกรรมเคลื่อนย้ายสินค้าแบบแยกส่วน   เป็นลักษณะการดำเนินงาน โดยกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายสินค้า จะแยกออกเป็นส่วนๆ โดยไม่มีการสอดประสานกัน ต่างกิจกรรมก็จะดำเนินไปตามภารกิจหรือหน้าที่ของตนเอง

2. ลักษณะการเคลื่อนย้ายสินค้าแบบบูรณาการ (Integration Logistics)  เป็นรูปแบบที่มีกระบวนการในการเคลื่อนย้ายสินค้าที่เป็นองค์รวมในการจัดการ วัตถุดิบ Raw Material และสินค้า (Goods) จาก Supply Source จนไปถึง Demand Source คือไปถึงผู้บริโภคหรือผู้ซื้อในลักษณะแบบ Just In Time  โดยแต่ละกิจกรรมจะมีปฏิสัมพันธ์เชิงระบบในการสอดประสานกัน โดยอาศัยข้อมูลข่าวสาร (Information Flow) การคาดคะเนความต้องการของลูกค้า (Demand Predictive) และการลดต้นทุนที่เกิดจากการลงทุนในทรัพย์สิน Fixed Asset  และใน Stock     สินค้า โดยการสร้างมูลค่าเพิ่ม Value Added ในตัวสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นลักษณะที่เรียกว่าการจัดการแบบ Logistics ซึ่งจะทำให้มีต้นทุนรวมที่ดีกว่า ก่อให้เกิดมีความได้เปรียบในการแข่งขัน

6. การที่จะพิจารณาว่าการเคลื่อนย้ายสินค้าและบริการ ลักษณะใดที่จะเป็นรูปแบบที่จะเป็น Logistics หรือไม่ก็ให้ดูจากลักษณะใด

ตอบ  
1.การเพิ่มความคล่องแคล่ว (Speed) ให้กับธุรกิจ เน้นการดำเนินการที่เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายสินค้าแบบ Just In Time และการขนส่งสินค้าที่เป็นลักษณะที่มีปฏิสัมพันธ์เชิงระบบในแต่ละกระบวนการ

2.การสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) โดยมีเป้าหมายในการลดต้นทุน โดยวิธีการกระจาย   ค่าใช้จ่าย (Cost Sharing) ไปยังบุคคลที่สาม (Outsourcing) เพื่อเพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขันเป็นสำคัญ (Core Competency)

3.ทุกกระบวนการจะมีการเชื่อมโยงเป็นแบบบูรณาการ (Integration) และมีการอาศัยข้อมูลข่าวสารร่วมกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อความพอใจของ  ลูกค้า (Customer Satisfaction)

4. การดำเนินกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการคาดคะเนความต้องการของตลาดและงานส่งเสริมการตลาด , กิจกรรมเสริมการผลิต , การจัดซื้อ , การเก็บรักษาสินค้า ,การกระจายสินค้า และการขนส่ง

7. ลอจิสติกส์แบบบูรณาการหรือแบบหนึ่งเดียวกัน (Integration Logistics) จะต้องให้ความสำคัญกับการจัดการกิจกรรมสำคัญที่เรียกว่าอะไร

ตอบ   RIMS  ซึ่งประกอบด้วย

1) การจัดการความสัมพันธ์ (Relations)

2) ข้อมูลสารสนเทศ (Information Technology)

3) วัตถุดิบและสินค้า (Materials Management)

4) ผู้ให้บริการ (Services Provider หรือ Outsources)

 

8.  เป้าหมายที่สำคัญของ Logistics   คืออะไร

ตอบ 
1. ความรวดเร็วในการส่งมอบสินค้า (Speed Delivery)

2. การไหลลื่นของสินค้า (Physical Flow)

3. การไหลลื่นของข้อมูลข่าวสาร (Information Flow)

4. การสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) ในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความต้องการของตลาด (Market Demand)

5. ลดต้นทุนในส่วนที่เกี่ยวกับการดำเนินการเกี่ยวกับสินค้าและการดูแลและขนส่งสินค้า (Cargoes Handling & Carriage Cost)

6. เพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพของการแข่งขัน (Core Competitiveness)

 

ความลับการเป็นข้าราชการมาถึงมือท่านแล้ว


 

***  แนวข้อสอบมีทั้งหมด 2 แบบ  ***

          – แบบปริ้นอ่านได้เลย ราคาเพียง 399 บาท ( ได้รับเนื้อหา หลังโอน 1-3 ชั่วโมง )

    – แบบหนังสือ+MP3 ราคา 699 บาท  (ได้รับ 1-2 วันทำการ)  ( ส่งฟรี J&T )

>รวบรวมจากผู้สอบติดอันดับต้นๆ เจาะข้อสอบเข้างานราชการ <<

>> (Book) สรุปสาระสำคัญ อ่านกระชับเวลา ไม่สับสน เข้าใจง่าย ออกชัวร์ๆ แม่นยำ <<
>> (New) รวบรวมจากรุ่นพี่ที่สอบได้อันดับต้นๆ+เจาะลึกตรงประเด็น เก็งข้อสอบ <<

>> (Pdf ) แนวข้อสอบพร้อมเฉลย+เนื้อหาสรุปเรียบร้อย ประหยัดเวลาในการอ่าน <<




แนวข้อสอบ

วิชาภาษาอังกฤษ

PART I

STRUCTURE

 

1. “ Did  you  do  the  shopping  all  right ?   Did you get any good meat? ”

“ Now,  don’t  fuss.  I  got  a  good  piece  off beef,  and  it  wasn’t  too  expensive

either , ….. these  days. ”

a.   as  the  meat  price      
                              
b.   as meat  prices  go

c.   that  meat  costs         
                                
d.   because of  the  meat  price

ตอบ ข้อ b ในที่นี้  prices  เป็น N. , price go แปลว่า  ราคาสูงขึ้น


2.  “The train’s going to stop soon.  We must get out immediately.”

“ All right.  I’ll get out ….. it stops. ”

a.   unless                                                            

b.   until

c.   as long as                                                     

d.   as soon as

ตอบ  ข้อ d   as soon as = ทันที  เมื่อใช้  as soon as  นำหน้า  adv.  Clause ที่แสดงเวลาและการกระทำหลังคำแสดงเวลาจะต้องใช้ present simple ประโยคแรกมี immediately อยู่จึงควรใช้ as soon as เพื่อให้ใจความสอดคล้องกัน



3. “Have you ever visited John ?  I’ve heard he’s moved to Chiengmai. ”

“ Oh, yes.  His  house  is ….. delightful. ”

a.   quite  really  unbelievable                       

b.   quite  unbelievable  really

c.   really  quite  unbelievable                       

d.   really  quite  unbelievable

ตอบ  ข้อ d    really  ควรอยู่หน้า quite



4. “ I  live  in 
Bangkok  with  my  relatives. ”

“Oh, ………. ? ”

a.   when  did  you  live  there                      

b.   when  have  you  been  living  there

c.   how  long  have  you  been  living  there

d.   how  many  year  did  you  live  there

ตอบ  ข้อ c  how long ใช้กับ present perfect และใช้กับระยะเวลา

 

5. ….. six cans of beer,  Wichai handed his car – keys to one of his friends.

a.   Drinking                                                       

b.   To drink

c.   Being drunk                                                

d.   Having drunk

ตอบ  ข้อ d   V.  ที่ขึ้นต้นประโยคจะได้เป็น  V. ไม่แท้เสมอ  ได้แก่  V. ing  ประธานเป็นผู้กระทำ  และ V.3  ประธานถูกกระทำ  ในที่นี้ประธานเป็นผู้กระทำจึงใช้ V.ing

ในรูป perfect participle สำหรับการกระทำแรกที่เสร็จก่อน


6. Young people should not ….. as a mass ….. on to set right the ills of society for which they are not responsible.

a. consider , to call

b. consider , to be called

c. be considered , to be called

d. be considered , to call

ตอบ  ข้อ d  to call on =  to appeal to  เรียกร้อง (คนหนุ่มสาวไม่ควรถูกพิจารณาใน

ฐานะกลุ่มคนที่เรียกร้องให้สภาพสังคมดีขึ้นซึ่งเขาไม่มีหน้าที่รับผิดชอบ)


7. ….. they knew that their opponents had been playing well recently , they knew that were in for a hard match.

a.   Though                                                         

b.   Since

c.   However                                                       

d.  Moreover

ตอบ  ข้อ b   since  อาจใช้ในความหมายโดยที่  , เพราะว่าเป็นคำเชื่อ  clause  ที่แสดง

สาเหตุของการกระทำตามด้วยประโยค


8. Although students use figures of speech quite well when speaking , they seem to have ….. difficulty with them in writing.

a.   too                                                                  

b.  enough

c.   more                                                              

d.   so

ตอบ  ข้อ c   more เป็นการเปรียบเทียบกับประโยคแรกว่ายากกว่า


9. A financial crisis often has the effect of making many people ….. to more stable and prosperous lands.

a.   decide to emigrate                                     

b.   decided to emigrate

c.   to decide to emigrate                                

d.   to decide emigrate

ตอบ  ข้อ a  make + กรรม + infinitive  ไม่มี  to = กรรมเป็นผู้กระทำ

 

10. Peter is spending too much time on girls, ….. is not good for his work.

a.   who                                                                

b.   which

c.   that                                                                 

d.   it

ตอบ  ข้อ b  which แทน spending too much time on girls



แนวข้อสอบ

พระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๑

 
1 พ.ร.บ.การอาชีวศึกษา พ.ศ.2551  ให้ไว้ ณ วันที่เท่าใด

ก.  ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑                 ค.  ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑

ข.  ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑                 ง.  ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑

ตอบ    ก. ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑


2 ใครเป็นผู้รักษาการตามพ.ร.บ.การอาชีวศึกษา พ.ศ.2551 

ก.  นายกรัฐมนตรี                                              ค.  คณะกรรมการการอาชีวศึกษา

ข.  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ                    ง.  ผู้ที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง

ตอบ   ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ


3 พ.ร.บ.การอาชีวศึกษา พ.ศ.
2551  มีกี่หมวด กี่มาตรา กี่บทเฉพาะกาล

ก.  5  หมวด  63  มาตรา  1 บทเฉพาะกาล              ค.  6  หมวด  63  มาตรา  1 บทเฉพาะกาล

ข.  5 หมวด  65  มาตรา  1 บทเฉพาะกาล               ง.  6  หมวด  65  มาตรา  1 บทเฉพาะกาล

ตอบ   ค. 6  หมวด  63  มาตรา  1 บทเฉพาะกาล


4 ใครเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการในพ.ร.บ.การอาชีวศึกษา พ.ศ.2551 

ก.  พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร                                 ค.  นายสมัคร  สุนทรเวช

ข.  นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ                                 ง.  พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์

ตอบ  ง. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์


5 ข้อใดคือเหตุผลในการประกาศใช้พ.ร.บ.การอาชีวศึกษา พ.ศ.2551

ก.  กฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติได้บัญญัติให้มีคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเพื่อควบคุมดูแลการจัดการอาชีวศึกษา

ข.  กฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติได้บัญญัติให้มีการดำเนินการจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการอาชีวศึกษา 

ค.  ให้มีการจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพในทุกระดับมีคุณภาพและประสิทธิภาพเกิดผลสำเร็จแก่ประชาชนโดยเฉพาะนักเรียนและนักศึกษา เป็นการสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและแผนการศึกษาแห่งชาติ

ง.  ถูกทุกข้อ

ตอบ  ง. ถูกทุกข้อ

 

6 “การอาชีวศึกษาหมายความว่าอย่างไร

ก.  กระบวนการศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนในด้านวิชาชีพระดับฝีมือ 

ข.  กระบวนการศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนในด้านวิชาชีพระดับเทคนิค

ค.  กระบวนการศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนในด้านวิชาชีพระดับเทคโนโลยี

ง.  ถูกทุกข้อ

ตอบ   ง. ถูกทุกข้อ


7 การจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพ มีกี่รูปแบบ

ก.  รูปแบบเดียว                        ค.  3  รูปแบบ

ข.  2  รูปแบบ                           ง.  4 รูปแบบ

ตอบ   ค. 3  รูปแบบ  ได้แก่  1. การศึกษาในระบบ   2. การศึกษานอกระบบ  3. การศึกษาระบบทวิภาคี


8 การจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพต้องเป็นการจัดการศึกษาในด้านวิชาชีพที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและแผนการศึกษาแห่งชาติ ได้ถูกกล่าวไว้ในมาตราใดของพ.ร.บ.การอาชีวศึกษา พ.ศ.2551 

ก.  มาตรา  6                               ค.  มาตรา  12

ข.  มาตรา 10                              ง.  มาตรา  7

ตอบ   ก. มาตรา  6


9 ข้อใด ไม่ใช่ รูปแบบการจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพ

ก.  การศึกษาในระบบ                                  ค. การศึกษาตลอดชีวิต

ข.  การศึกษานอกระบบ                                ง. การศึกษาระบบทวิภาคี

ตอบ   ค. การศึกษาตลอดชีวิต


10 การจัดการศึกษาวิชาชีพที่เน้นการศึกษาในสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันเป็นหลัก โดยมีการกำหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาการวัดและการประเมินผลที่เป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอน คือ

ก.  การศึกษาในระบบ                               ค.  การศึกษาตลอดชีวิต

ข.  การศึกษานอกระบบ                             ง.  การศึกษาระบบทวิภาคี

ตอบ  ก. การศึกษาในระบบ   

 

ใส่ความเห็น